กระบวนการของ Astaxanthin ที่ช่วยชะลอความแก่
ปกป้องเซลล์เมมเบรน
เมมเบรนไม่เพียงแต่เป็นประตูสู่เซลล์ในร่างกายเท่านั้นแต่ยังเป็นตัวบ่งบอกถึงวัยอีกด้วย เพราะเมมเบรนสร้างสมดุลการสื่อสารระหว่างเซลล์ ช่วยบำรุงเซลล์ในร่างกาย และปกป้องดีเอ็นเอจากการถูกทำลาย อย่างไรก็ตาม เมมเบรนยังเป็นเป้าหมายแรกของอนุมูลอิสระเช่นกัน โดยแอสตาแซนธินที่มีโครงสร้างโมเลกุลเป็นเอกลักษณ์เหยียดตลอดทั้งสองชั้นของเมมเบรนเพื่อให้การปกป้องอย่างยืดหยุ่นจากภาวะเครียดที่เกิดจากการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน แอสตาแซนธินสามารถยับยั้งอนุมูลอิสระที่อยู่ทั้งภายในและภายนอกเมมเบรนได้ ไม่เหมือนกับสารต้านอนุมูลอิสระอื่นที่ทำงานได้ภายใน (อาทิ วิตามินอีและเบต้าแคโรทีน) หรือภายนอกเมมเบรนเท่านั้น (อาทิ วิตามินซี)
ปกป้องไมโทคอนเดรียอย่างมีประสิทธิภาพ
ไมโทคอนเดรียเป็นโครงสร้างขนาดเล็กภายในเซลล์ เปรียบเสมือนเป็น “โรงงาน” ที่คอยสร้างพลังงานให้กับเป็นเซลล์เป็นหลัก ไมโทคอนเดรียยังเป็นผู้สร้างอนุมูลอิสระรายสำคัญ ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากกระบวนการสร้างพลังงานงานอีกด้วย เมื่อเยื้อหุ้มไมโทคอนเดรียถูกทำลายลงจากอนุมูลอิสระจะทำให้เกิดเซลล์แก่ก่อนวัยอันควรและตายในที่สุด การวิจัยได้แสดงให้เห็นว่าแอสตาแซนธินช่วยให้ไมโทคอนเดรียทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากมันมีฤทธิ์ต้านการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันโดยเอาอนุมูลอิสระที่อยู่ตามโครงสร้างเมมเบรนออกไป
ปกป้องไมโทคอนเดรียอย่างมีประสิทธิภาพ
ไมโทคอนเดรียเป็นโครงสร้างขนาดเล็กภายในเซลล์ เปรียบเสมือนเป็น “โรงงาน” ที่คอยสร้างพลังงานให้กับเป็นเซลล์เป็นหลัก ไมโทคอนเดรียยังเป็นผู้สร้างอนุมูลอิสระรายสำคัญ ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากกระบวนการสร้างพลังงานงานอีกด้วย เมื่อเยื้อหุ้มไมโทคอนเดรียถูกทำลายลงจากอนุมูลอิสระจะทำให้เกิดเซลล์แก่ก่อนวัยอันควรและตายในที่สุด การวิจัยได้แสดงให้เห็นว่าแอสตาแซนธินช่วยให้ไมโทคอนเดรียทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากมันมีฤทธิ์ต้านการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันโดยเอาอนุมูลอิสระที่อยู่ตามโครงสร้างเมมเบรนออกไป
เสริมการต้านอนุมูลอิสระในกระแสเลือด
ระดับของการต้านอนุมูลอิสระในกระแสเลือดถือเป็นตัวชี้วัดความแข็งแรงของร่างกายในการต่อกรกับการที่ส่วนต่างๆ ของร่างกายเสื่อมลงและการแก่ก่อนวัยอันควร แท้ที่จริงแล้ว การทำลายสมดุลของสารต้านอนุมูลอิสระในเลือดเป็นเวลานานนั้น สัมพันธ์กับโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบหัวใจและหลอดเลือดและระบบไหลเวียนของโลหิต การเสื่อมลงของระบบประสาท สัญญาณของผิวเสี่อมสภาพและไตวาย การวิจัยทางคลินิกได้แสดงให้เห็นว่าแอสตาแซนธินช่วยเสริมการต้านอนุมูลอิสระในกระแสเลือดได้โดยป้องกันไม่ให้เสียสมดุลของสารต้านอนุมูลอิสระอย่างคะตะเลส กลูตาไธโอน และซุปเปอร์ออกไซด์ดิสมิวเทส ในร่างกาย
ไม่ทำให้เกิดโปรออกซิแดนซ์
โมเลกุลของสารต้านอนุมูลอิสระบางประเภทสามารถกลายเป็นโปรออกซิแดนซ์ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อถูกทำลายโดยอนุมุลอิสระอย่างรุนแรง อาทิจากการสูบบุหรี่หรือการสัมผัสกับรังสียูวีเข้มข้น การที่ร่างกายมีปริมาณโปรออกซิแดนซ์มากนำไปสู่ภาวะเครียดที่เกิดจากการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน ซึ่งสามารถทำให้เซลล์และเนื้อเยื้อต่างๆ เสียหายอย่างรุนแรง ส่งผลให้ร่างกายร่วงโรยก่อนวัยอันควร งานวิจัยหลายชิ้นได้เปิดเผยว่าแอสตาแซนธินยับยั้งอนุมูลอิสระได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ทำให้โปรออกซิแดนซ์มีปฏิกิริยาขึ้นมา เช่นนี้แล้ว แอสตาแซนธินจึงถูกจัดอยู่ในกลุ่มสารต้านอนุมูลอิสระบริสุทธิ์ที่ดีที่สุด
ไม่ทำให้เกิดโปรออกซิแดนซ์
โมเลกุลของสารต้านอนุมูลอิสระบางประเภทสามารถกลายเป็นโปรออกซิแดนซ์ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อถูกทำลายโดยอนุมุลอิสระอย่างรุนแรง อาทิจากการสูบบุหรี่หรือการสัมผัสกับรังสียูวีเข้มข้น การที่ร่างกายมีปริมาณโปรออกซิแดนซ์มากนำไปสู่ภาวะเครียดที่เกิดจากการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน ซึ่งสามารถทำให้เซลล์และเนื้อเยื้อต่างๆ เสียหายอย่างรุนแรง ส่งผลให้ร่างกายร่วงโรยก่อนวัยอันควร งานวิจัยหลายชิ้นได้เปิดเผยว่าแอสตาแซนธินยับยั้งอนุมูลอิสระได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ทำให้โปรออกซิแดนซ์มีปฏิกิริยาขึ้นมา เช่นนี้แล้ว แอสตาแซนธินจึงถูกจัดอยู่ในกลุ่มสารต้านอนุมูลอิสระบริสุทธิ์ที่ดีที่สุด
มีประสิทธิภาพในการต่อต้านการอักเสบ
เชื่อกันว่าการอักเสบเรื้อรังเป็นภัยเงียบสำคัญของการเสื่อมลงของร่างกาย ทำไมให้แก่เร็วขึ้นและโรคที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตอื่นๆอีกมายมาก แอสตาแซนธินระงับการอักเสบดังกล่าวได้โดยยับยั้งการสับเปลี่ยนของ NF-kB ตัวการสำคัญของของกระบวนการอักเสบ โดยการวิจัยทางคลินิกได้พิสูจน์ว่าแอสตาแซนธินลดการอักเสบในระบบทางเดินอาหารและหลอดเลือด ตลอดจนถึงในกล้ามเนื้อหลังการออกกำลังกายอย่างหนักได้ อีกทั้ง การศึกษาเมื่อไม่นานมานี้ชี้ให้เห็นว่าแอสตาแซนธินสามารถลดอาการอักเสบที่ตา ไต และสมองได้
การลดความเสียหายที่มีต่อดีเอ็นเอ
อนุมูลอิสระต่างๆ ทำให้ดีเอ็นเอเสียหายและกลายพันธุ์ ซึ่งสามารถทำให้เซลล์ที่ยังไม่เติบโตเต็มที่ตายและทำให้ร่างกายแก่ก่อนวัยอันควร รวมถึงสามารถเป็นโรคมะเร็งได้เช่นกัน มีความเสี่ยงสูงที่เซลล์ภูมิคุ้มกันจะถูกทำลายด้วยอนุมูลอิสระต่างๆ การวิจัยทางคลินิกได้ชี้ให้เห็นว่าแอสตาแซนธินสามารถบรรเทาความเสียหายของดีเอ็นเอที่เกิดจากการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันและอนุมูลอิสระ และยังช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำหน้าที่ได้ดีขึ้นอีกด้วย ซึ่งโดยรวมเป็นผลทำให้ร่างกายชะลอความแก่ได้ตั้งแต่ชั้นดีเอ็นเอ
การลดความเสียหายที่มีต่อดีเอ็นเอ
อนุมูลอิสระต่างๆ ทำให้ดีเอ็นเอเสียหายและกลายพันธุ์ ซึ่งสามารถทำให้เซลล์ที่ยังไม่เติบโตเต็มที่ตายและทำให้ร่างกายแก่ก่อนวัยอันควร รวมถึงสามารถเป็นโรคมะเร็งได้เช่นกัน มีความเสี่ยงสูงที่เซลล์ภูมิคุ้มกันจะถูกทำลายด้วยอนุมูลอิสระต่างๆ การวิจัยทางคลินิกได้ชี้ให้เห็นว่าแอสตาแซนธินสามารถบรรเทาความเสียหายของดีเอ็นเอที่เกิดจากการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันและอนุมูลอิสระ และยังช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำหน้าที่ได้ดีขึ้นอีกด้วย ซึ่งโดยรวมเป็นผลทำให้ร่างกายชะลอความแก่ได้ตั้งแต่ชั้นดีเอ็นเอ